Digital Finance Trend & Service 2022

ตลอดช่วงโควิด - 19 ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมหลายภาคส่วนได้รับผลกระทบในเชิงลบ แต่ Digital Finance น่าจะเป็นภาคส่วนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบในเชิงบวก  ทั้งจากการสั่งซื้อสินค้า บริการ อาหารผ่านโลกออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้น และทั้งจากการกระแส Fintech และ Cryptocurrency ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำให้ Digital Finance อยู่ในขาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
‍

‍

1) Digital wallet is going to be the main wallet

จากรายงานของกลุ่มเทคโนโลยีบริการทางการเงิน FIS คาดว่าในปี 2567 การชำระค่าสินค้าและบริการผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลจะคิดเป็นมากกว่าครึ่งของการชำระเงินแบบ E-Payment ทั่วโลก

สำหรับประเทศไทยเอง เพียงแค่แอปเป๋าตังค์ จากโครงการต่างๆของรัฐ ก็ทำให้มีผู้ใช้ Digital Wallet สูงถึง 40 ล้านคน ซึ่งมีผู้ใช้อยู่ทุกระดับ ทุกอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นแม่ค้า พนักงานออฟฟิศ หรือแม้กระทังผู้บริหาร

นอกจาก Banking App แล้ว หลายธุรกิจก็พัฒนา Digital Wallet ของตนเอง ทั้งเพื่อความสะดวกในการจ่ายค่าสินค้า บริการ รวมทั้งยังใช้เป็นเสมือน CRM สำหรับสร้าง Loyalty user อีกด้วย เช่น Grab Pay Wallet ที่ผู้ใช้จะได้ส่วนลดพิเศษกรณีจ่ายเงินผ่าน Grab Pay Wallet

‍

2) Digital Currency, the new world of finance

อาจจะกล่าวได้ว่าโควิด ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้กระแสของ Cryptocurrency บูมมากยิ่งขึ้น ในสภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวถึงขั้นหยุดชะงัก ทำให้หลายคนรายได้ลดลง  Cryptocurrency กลายมาเป็นความหวังใหม่ผู้สำหรับผู้ที่ชอบการเกร็งกำไรเพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงๆ บวกกับการลงทุนใน Cryptocurrency นั้นทำได้ง่ายกว่า เร็วกว่าการลงทุนในตลาดหุ้น ยิ่งทำให้กระแสการเล่นคริปโตเพิ่มสูงขึ้น และเป็นที่นิยมมากในคนรุ่นใหม่

ข้อมูลที่น่าสนใจเป็นอย่างมากจาก Digital 2022 by Hootsuite ระบุว่าคนไทย มีสัดส่วนต่อประชากรในการถือครองคริปโตเป็นอันดับ 1 ของโลก ที่  20.1% ในขณะที่ค่าเฉลี่ยโลกอยู่ที่เพียง 10.2%

‍

Digital Currency หรือสกุลเงินดิจิตัล นอกจากจะเป็นที่นิยมในไทยในแง่ของการลงทุนเกร็งกำไรระยะสั้นแล้ว หลายบริษัทก็กระโดดเข้ามาสร้าง Digital Currency ของตนเอง เพื่อสร้างฐานลูกค้าและตอบสนองเทรนด์นี้ เช่น Jmart ที่มี Jfin Coin ซึ่งเป็น Cryptocurrency สกุลหนึ่ง ที่สามารใช้ได้ทั้ง ซื้อสินค้าใน Jaymart Shop
(ช่วงกิจกรรม) ซื้อ Coupon เช่น CASA LAPIN (Gift Voucher)  เป็นต้น

ในขณะที่หลายบริษัทก็เริ่มมีการขยับตัวเข้ามาใกล้กับ Cryptocurrency มากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นแสนสิริ อนันดา เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ แม้กระทั่งนันยาง ที่เปิดให้เอา crypto มาแลกกับรองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าแตะนันยางได้

‍

3) Crowdfunding Platform, The Future of Long-term Investment

Digital finance ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแต่การซื้อ ขายสินค้า หรือลงทุนระยะสั้นเท่านั้น แม้กระทั่งการลงทุนระยะยาวก็สามารถทำได้บนออนไลน์ ผ่าน Crowdfunding Platform

เราอาจจะคุ้นหูกับคำว่า crowdfunding ที่ระดมทุนออนไลน์เพื่อให้ startup นำเงินทุนไปผลิตสินค้าออกมาจำหน่ายในตลาดกันอยู่แล้ว ซึ่งใน concept เดียวกัน เพียงแต่เป็นการระดมทุน หรือซื้อหุ้น ในบริษัทที่มานำเสนอขาย ผ่าน online platform เช่น Peer Power ที่วาง positioning ตนเองเป็น ผู้เชื่อมโยงผู้ประกอบธุรกิจ และนักลงทุนเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างความเท่าเทียมกันในการลงทุนของผู้ลงทุนรายใหญ่และรายเล็ก โดยที่ทาง Peer Power จะมีการวิเคราะห์ให้แล้วว่าแต่ละธุรกิจมีความเสี่ยงและอัตราผลตอบแทนอยู่ในระดับใด ทำให้ผู้ลงทุนสามารถตัดสินใจได้ง่ายและกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตตนเอง ในขณะที่ผู้ระดมทุนก็สามารถระดมทุนได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน และยังอนุมัติการระดมทุนภายใน 5 วันทำการ
สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

บทสรุป‍

อาจจะกล่าวได้ Digital Finance เป็นหนึ่งใน Disruptor ที่ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกไม่หดตัวจนติดลบมากเกินไปแม้จะเผชิญกับโควิด เนื่องจาก Digital Finance ทำให้คนเข้าถึงการเงินได้ง่ายยิ่งขึ้น สะดวกขึ้น มีความเท่าเทียมในการลงทุนมากยิ่ง ไม่ถูกผูกขาดอยู่เฉพาะกลุ่มนายทุนใหญ่ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจโตในวงกว้างมากยิ่งขึ้น