พามาพูดคุยกันเรื่อง "สี" และมาคาดการณ์เทรนด์สีปีนี้กัน
ก่อนที่จะรู้ว่าเทรนด์สีมาจากไหน จะพาไปดูการพูดถึงจิตวิทยาการเรียนรู้ในการใช้สีของ ผู้เชี่ยวชาญด้านสี Karl Johan Bertilsson (Creative Director, NCS Colour) และการคาดการณ์ถึงความบ้าคลั่งของสีสัน หลังการระบาดของโคโรนาไวรัส
สีเป็นสิ่งที่ปรากฏอยู่บนโลก ทุก ๆ สิ่งที่เรามองเห็นรอบ ๆ ตัวนั้น ล้วนแต่มีสี โลกของเราถูกจรรโลงและแต่งแต้มด้วยสีสันหลายหลาก ทั้งสีสันตามธรรมชาติและสีที่มนุษย์สร้างขึ้น หากโลกนี้ไม่มีสี หรือมนุษย์ไม่สามารถรับรู้เกี่ยวกับสีได้ ก็จะเป็นความบกพร่องที่ยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ เพราะสีคือสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน และทุกคนรักสีสัน เมื่อมีสีสันเราก็จะมีความสุข และเมื่อมีความสุขก็จะทำสิ่งดี ๆ ให้กับโลกนี้ได้
WHO? ใครเล่ากำหนดเทรนด์สี
เทรนด์สีต่างจากเทรนด์อื่นๆ ตรงที่ไม่ได้อิงจากนวัตกรรม เพราะสีทั้งหมดนั้นล้วนเกิดขึ้นและมีอยู่แล้วในโลก ไม่ได้มีสีใหม่เกิดขึ้น แนวโน้มของสีจะถูกกำหนดด้วยสองลักษณะ: คือ หนึ่ง วัฏจักรของการตั้งค่าสีซ้ำๆ ซึ่งเป็นผลมาจากจิตวิทยาล้วนๆ และสอง ปัจจัยภายนอก: สิ่งเหล่านี้อาจเป็นอะไรก็ได้ตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจ สงคราม หรือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไปจนถึงอิทธิพลของท้องถิ่นและวัฒนธรรม
WHAT? อะไรทำให้เกิดเทรนด์สี
การรับรู้สีของมนุษย์เกิดจากการมองเห็นโดยใช้ตาเป็นอวัยวะสัมผัส แล้วส่งผลไปสู่จิตใจ การที่เราเจอสีที่คล้ายกันมาก ๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง ทำให้สมองเกิดความเหนื่อยล้า และถึงเวลานั้น เราต้องการความแตกต่างแบบสุดขั้ว กระบวนการรับรู้และการเปลี่ยนแปลงนี้ จะเกิดจากค่าเข้มข้นสีสูง สีเข้ม ไปจนถึงสีเข้มกว่าเล็กน้อย จนอาจจะเปลี่ยนไปสู่สีพาสเทลที่อ่อนกว่า ก่อนที่เราจะกลับไปยังจุดเริ่มต้นที่เป็นกลางนั้น สีที่เราต้องการ อาจเป็นโทนสีเทา แล้วกระบวนการรับรู้ก็ย้อนกลับอีกครั้ง วัฏจักรนี้เกิดขึ้นอยู่เสมอ ซึ่งมีผลกระทบต่อคนส่วนใหญ่บนโลกนี้ด้วยเช่นกัน
แม้แตกต่างทางวัฒนธรรม แต่ทั่วโลกกลับใช้เทรนด์สีเดียวกัน
จากผู้เชียวชาญด้านสีจากหลาย ๆ ประเทศ ทั้งยุโรป สหรัฐอเมริกาและจีน ที่เข้าร่วมเวิร์คช้อป ต่างเปรียบเทียบแนวโน้มสีในปัจจุบัน และการคาดการณ์สำหรับปีหน้า พบว่าการนำเสนอค่าสีที่น่าจะเกิดขึ้นนั้น มีความคล้ายคลึงกันมาก ด้วยแรงขับเคลื่อนที่คล้ายคลึงกัน และเราทุกคนกำลังจะผ่านโรคระบาดนี้ อีกทั้งผู้คนต่างค้นหาดูความเป็นไปได้ของเทรนด์สีที่กำลังจะเกิดขึ้นจากทั่วโลกผ่านอินเตอร์เน็ต
HOW COME? ทำไมสีบางสีจึงได้รับความนิยม
การที่จะพัฒนาเทรนด์สีทีดีนั้น ต้องมีการทำการวิจัยเกี่ยวกับความต้องการใช้สี เพื่อให้เกิดการยอมรับของผู้บริโภคเสียก่อน หากเปิดตัวเทรนด์สีโดยไม่ทำความเข้าใจว่าผู้คนจะยอมรับเฉดสีใด พวกเขาอาจจะไม่ยอมรับเทรนด์สีนั้น
สีส้มและสีเหลืองเป็นสีที่ค่อนข้างใช้งานยาก และน้อยคนนักที่จะยอมรับในทันที แต่เมื่อ สีเหลืองกลายเป็นเทรนด์ (ในปี2021) และเริ่มเห็นสีเหลืองอยู่ในทุกที่ ทำให้เกิดการยอมรับมากขึ้น และส่งผลให้ทุกคนต่างก็อยากลองใช้สีเหลืองบ้างเช่นเดียวกัน
ตัวอย่างการใช้สีที่ดี จากซีรีส์ยอดนิยมเรื่อง “Orange Is the New Black” ซีรีส์นี้เกี่ยวกับเรือนจำในสหรัฐอเมริกา และในนั้น นักโทษสวมเครื่องแบบสีส้ม ทำให้สีส้มก็กลายเป็นกระแสสุดฮอตขึ้นมาทันที จนถึงขั้นที่เรือนจำบางแห่งตัดสินใจเปลี่ยนสีเครื่องแบบ เพราะเหตุผลที่ว่าสีส้มคือสีที่ทำให้มองเห็นผู้ต้องขังได้ง่ายขึ้น หากพวกเขาหลบหนี อาจจะฟังดูไร้สาระ แต่มันเป็นเรื่องจริง อย่างไรก็ตาม ละครทีวีไม่ได้เริ่มเทรนด์สีส้ม แต่มันก็เสริมความแข็งแกร่งให้กับสีที่ได้ถูกเลือกไว้แล้ว
สีเดียวกัน แต่ก็เป็นคนละสี
ยิ่งสีมีสีสันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งควรใช้บนพื้นผิวที่เล็กลงเท่านั้น หากต้องการสีที่สว่างและเข้มมาก ควรเลือกให้เหมาะสมกับพื้นที่ เพราะแสงสีที่มากเกินไปจะทำให้รู้สึกเบื่อหน่าย สามารถใช้ 3 หลักดังนี้
1. ทิศทางของสี
2. แม่สี
3. เฉดสี
หลาย ๆ ครั้ง เฉดสีที่เข้มหรืออ่อนกว่าแม่สี ก็ดูโดดเด่นแข็งแรงกว่าแม่สี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการออกแบบและการให้ความสำคัญของสี จึงทำให้แม้เป็นสีเดียวแต่ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน นั่นคือแม้เป็นสีเหลืองเหมือนกัน แต่ก็สามารถลดหรือเพิ่มความเข้มเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกันได้
มาคาดการณ์เทรนด์สีปีนี้กัน
เมื่อโรคระบาดหมดไป อารมณ์ของผู้คนจะระเบิด! เราจะเห็นการผสมสีอย่างบ้าคลั่ง นักออกแบบหันมาใช้แพทเทิร์นแบบ Psychedelic แบบที่ทำให้รู้สึกเหมือนเห็นภาพหลอน ๆ เฉดสีตัดกันจัด ๆ และสีสดใสที่หมุนบิดเกลียวราวกับบ้าคลั่ง มีตั้งแต่สีที่ทำให้เกิดภาพหลอนไปจนถึงจานสีที่สว่างเกินจริง แต่หลังจากนั้น หลายคนคาดการณ์ว่าเราจะไม่ต้องการสิ่งเร้าใด ๆ อีกต่อไป ในช่วงหลังของการเร่งสี แนวโน้มจะเป็นสีเดียว แทนการบล็อกสี ไปสู่สีที่สงบและเป็นธรรมชาติ เช่น เฉดสีเขียวอ่อน ๆ เพราะธรรมชาติมีความสำคัญกับเรามาก
คาดการณ์ว่าในปีนี้ เราจะเห็นสีที่มาจากธรรมชาติใกล้ตัว เฉดสีที่สบายตา เป็นมิตร แต่ยังคงความน่าสนใจและมีพลังดึงดูด
1. Mango Sherbet
สีของฤดูกาลใหม่ สีเหลืองอมส้มจากผลไม้ที่สุกปลั่ง สร้างพลังได้เป็นอย่างดี
02 Butter Cream
สีครีมของเนยนม จากจานอาหารเช้า อิ่มเอิบและน่าถะนุถนอม
3. Olive Oil
สีเขียวอ่อนๆ ที่ยังคงมาจากก้นครัว อาหารคือสิ่งสำคัญที่เราขาดไม่ได้ สีนี้จึงแสดงถึงความคงอยู่อย่างมีชีวิตชีวา
4. Atlantic Blue
สีน้ำเงินจากจากทะเล atlantic ผู้คนยังแสวงหาน้ำทะเลเสมอ เพราะทะเลจะช่วยเยียวยาจิตใจให้กลับมาเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้ง
5. Orchid Flower
ไม่ลืมที่จะส่งแรงกำลังใจด้วยสีชมพูอมม่วงแบบดอกกล้วยไม้ สดใสแต่ไม่อ่อนแอ พร้อมก้าวเข้าสู่โลกใหม่ที่กำลังรอคอยเราอยู่
6. Very Peri
สี PANTONE 17-3938 สีสุดท้ายที่กำลังมาแรง และเป็นสีหลักของปีนี้ เป็นการผสมผสานระหว่างสีฟ้าสดใส และสีชมพูหวาน ๆ ซึ่งหมายถึงการปรับตัวจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ให้เข้ากับโลกที่เปลี่ยนไปจากไวรัสและวิกฤตที่เราทุกคนต้องพบเจอ
Source :
